ผีแดง หงส์จ่อปฏิรูปลีกลดเหลือ 18 ทีม- พรีเมียร์โต้ กระทบบอลผู้ดีแน่


Monday 12th October 2020
ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ หงส์แดง ลิเวอร์พูล 2 ทีมดังจากอังกฤษ ร่วมกันเป็นแกนนำในการปฏิรูปวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยพยายามผลักดันให้ลดจำนวนทีมในพรีเมียร์ลีกลงเหลือ 18 ทีม รวมถึงการยกเลิกการแข่งขัน คอมมูนนิตี้ ชิลด์ อีกด้วย ตามรายงานของ BBC สื่อเจ้าดัง
ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันว่า โจเอล เกลเซอร์ เจ้าของ ผีแดง และเฟนเวย์ สปอร์ตกรุ๊ป ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร ลิเวอร์พูล ร่วมกันผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้น โดยมีแชมป์หรีเมียร์ลีกทีมล่าสุดอย่างหงส์แดงเสนอแผนนี้ขึ้นมา
หลังจากการเสนอโปรเจ็คนี้ บรรดาสโมสรใหญ่อื่น ๆ ก็ต่างเห็นพ้องด้วย ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, อาร์เซน่อล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งบรรดาทีมดังกล่าวล้วนแต่เป็นทีมจากบิ๊กซิกทั้งสิ้น
ข้อเสนอหลักของพวกเขาคือการลดขนาดของพรีเมียร์ลีดลงจาก 20 ทีม ให้เหลือเพียง 18 ทีม เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันลีก คัพ รวมไปถึงการยกเลิกการแข่งขัน คอมมูนนิตี้ ชิลด์
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงจาก 20 ทีมเหลือ 18 ทีมนั้น คาดกันว่าจะต้องให้ 4 สโมสรร่วงตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกและมี 2 สโมสรเลื่อนชั้นขึ้นมาจากแชมเปี้ยนชิพ
รูปแบบการตกชั้นและเลื่อนชั้นก็จะเปลี่ยนไปด้วย โดยจะมีทีมตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกอัตโนมัติ 2 ทีมและเลื่อนชั้น 2 ทีม ส่วนทีมจบอันดับ 16 ในพรีเมียร์ลีกจะต้องเพลย์ออฟกับทีมจากอันดับ 3-5 ของแชมเปี้ยนชิพ
นอกเหนือจากนี้ การโหวตในการประชุมก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน จากที่ต้องใช้ 14 ทีมในการเห็นพ้องเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎ ก็จะถูกปรับให้ลดลง
หากการดำเนินการดังกล่าวสำเร็จ จะทำให้ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก มีอำนาจมากขึ้น ทั้งนี้นอกจากบรรดาทีมใหญ่ทั้ง 6 ทีมแล้ว สโมสรที่อยู่ในลีกมานานอย่าง เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ เซาแธมป์ตัน ก็อาจจะได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างด้วยเช่นกัน
สิทธิพิเศษที่ว่าคือหาก 6 จาก 9 สโมสรที่กล่าวไปข้างต้นโหวตเห็นด้วย ก็จะทำให้ข้อเสนอต่างๆในการประชุมได้รับอนุมัติทันที
ไอเดียเหล่านี้ยังรวมถึงการบรรเทาความกังวลของอีเอฟแอล ในเรื่องช่องว่างด้านการเงินระหว่าลีกสูงสุดและลีกรองลงมา ด้วยการแบ่งเงิน 25 เปอร์เซนต์จากรายได้ประจำปีให้สโมสรในลีกรอง
พวกเขาจะควักให้ก่อน 250 ล้านปอนด์เพื่อช่วยสโมสรในลีกล่างให้ก้าวผ่านวิกฤติจากการระบาดของโควิด ส่วนทางเอฟเอก็จะได้รับเงิน 100 ล้านปอนด์เป็นของขวัญ
รายงานจาก เดอะ เทเลกราฟ ยังบอกว่า ริค แพร์รี่ ประธานของอีเอฟแอลเห็นพ้องกับแผนการนี้
ทั้งนี้ข้อเสนอไม่ได้กำหนดวันเวลาที่อยากให้เริ่มต้นลีกรูปแบบใหม่ แต่แหล่งข่าวบอกถ้าจะให้เป็นฤดูกาล 2022-23 ก็มีความเป็นไปได้
สื่อเจ้าดังอีกเจ้าอย่าง The Telegraph ได้รายงานรายละเอียดข้อเสนออื่นอีกเช่น
– เปลี่ยนแปลงระบบยืมตัว โดยจะอนุญาตให้แต่ละทีมปล่อยยืมภายในประเทศได้พร้อมๆกัน 15 คน แต่ไปอยู่สโมสรเดียวกันได้สูงสุดครั้งละ 4 คน
– ให้พรีเมียร์ลีกเริ่มต้นฤดูกาลในเดือนสิงหาคมช้ากว่าเดิมหน่อย เพื่อจะได้มีเวลามากขึ้นเพื่อจัดเกมอุ่นเครื่อง รวมถึงอยากให้ทุกสโมสรเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ช่วงซัมเมอร์ของพรีเมียร์ลีกอย่างน้อย 1 หนในทุกๆ 5 ปี
– ทีมในแชมเปี้ยนชิพ, ลีกวันและลีกทูจะมีลีกละ 24 ทีม เท่ากับว่าจำนวนสโมสรในลีกฟุตบอลอาชีพจะลดลงจาก 92 เหลือ 90 ทีม
– กฏใหม่สำหรับการแบ่งปันรายได้การถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีกทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งยังรวมถึงข้อเสนอให้เงินส่วนหนึ่งจัดสรรตามผลงานตลอด 3 ปีที่อยู่ในลีก
หลังจากที่บรรดาสโมสรใหญ่ได้เริ่มหารือเรื่องข้างต้นได้ไม่นาน ฝ่าย พรีเมียร์ลีก ก็ได้ออกแถลงการณ์เชิงตอบโต้ โดยเนื้อหาใจความส่วนใหญ่เป็นการเตือนว่า ข้อเรียกร้องของสโมสรใหญ่ทั้งหมดจะทำให้วงการฟุตบอลอังกฤษเสียหายทั้งหมด
พรีเมียร์ลีกยังได้ตำหนิ ริค แพร์รี่ ประธานอีเอฟแอลที่ออกมาให้การเชิงสนับสนุนอีกด้วย
“วันนี้เราได้เห็นรายงานข่าวเรื่องแผนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างฟุตบอลของประเทศ” แถลงการณ์ระบุ
“ฟุตบอลอังกฤษเป็นลีกที่มีผู้ชมมากสุด รวมถึงยังมีความตื่นเต้นและการแข่งขันอันเข้มข้น ซึ่งกระตุ้นความสนใจจากทั่วโลก”
“การที่จะรักษาสิ่งนั้นไว้ สิ่งสำคัญคือเราทุกฝ่ายเป็นการร่วมมือกัน”
“ทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอสนับสนุนการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของฟุตบอล รวมถึงโครงสร้างการแข่งขัน, ปฏิทินการแข่งขันและภาพรวมของการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19”
“ฟุตบอลมีผู้เกี่ยวข้องมากมาย ดังนั้นงานนี้ควรดำเนินการผ่านช่องทางที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกสโมสรและผู้เกี่ยวข้องมีส่วนช่วยเหลือ”
“ในมุมมองของพรีเมียร์ลีกแล้ว บางข้อเสนอที่ถูกเผยแพร่ออกมาในวันนี้อาจเป็นเรื่องเสียหายต่อทั้งวงการ และเราก็ผิดหวังที่เห็น ริค แพร์รี่, ประธานของอีเอฟแอล, ออกมาสนับสนุน”
“พรีเมียร์ลีกพยายามดำเนินการด้วยศรัทธาที่ดี, ร่วมกับสโมสรของเราและอีเอฟแอล เพื่อหาทางออกให้การเรียกร้องเงินทุนช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด-19 งานในส่วนนี้ยังคงดำเนินต่อไป”
Posted by admin