มูรินโญ่  รับงานคุม สเปอร์ส เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ต่อจาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ซึ่งตอนนั้น ไก่ ย่ำแย่อยู่อันดับ 14 ชนะแค่ 3 เกมจาก 12 นัด ทว่านับตั้งแต่กุนซือโปรตุเกสเข้ามาคุมทัพ สเปอร์ส เก็บได้ถึง 44 แต้ม ซึ่งมีแค่ ลิเวอร์พูล (59), แมนฯซิตี้ (50) และ แมนฯยูฯ (46 แต้ม) ที่ทำได้ดีกว่า ผลงานของ มูรินโญ่ ติดระดับท็อปโฟร์ แต่รายละเอียดที่แสดงออกมาในสนาม มันแทบจะไม่มีอะไรที่น่าประทับใจเลย เขายังคงเป็นกุนซือที่เน้นผลการแข่งขัน ซึ่งโดยปกติธรรมชาติของ มูรินโญ ก็ไม่เหมาะกับธรรมชาติบอลบุกของ สเปอร์ส อยู่แล้ว ญญาอีก 2 ปีนับจากนี้จะพิสูจน์ว่า ะประสบความสำเร็จกับ สเปอร์ส หรือไม่ ถ้าพาทีมเป็นแชมป์สัก 1 รายการก็ถือว่าผ่าน แต่ถ้าไม่ได้แชมป์อะไรเลยก็สอบตก

นั่นคือสิ่งที่จะตัดสินกุนซือคนนี้ แล้วแฟน สเปอร์ส อย่าไปหวังเห็นความสวยงามอะไรจากแท็กติกที่ มู วางในแต่ละเกม ไก่เดือยทอง ทีมนี้จึงกลายเป็นทีมที่เน้นผลการแข่งขันไปเต็มตัว

ฤดูกาลหน้ารักษานักเตะกลุ่มนี้เอาไว้ เล่นในสไตล์ของ มูรินโญ่ เน้นผลการแข่งขัน สเปอร์ส อาจจะแทรกติดอันดับ 4 ได้ และความหวังสูงสุดก็คือแชมป์เอฟเอ คัพ หรือแชมป์ลีก คัพ ถ้าเป็นไปได้จบฤดูกาลนี้บังเอิญ สเปอร์ส ได้ไปยูโรปา ลีก ก็ลุ้นแชมป์ถ้วยนี้กันไป

สเปอร์ส ไม่ได้แชมป์มาตั้งแต่ปี 2008 ว่า “แชมป์” สำคัญกว่าความสวยงาม ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ จะต้องนำมันมาสู่ ไก่เดือยทอง

อย่างเกมล่าสุดที่ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 นี่เป็นตัวอย่างอันดีเลยที่จะพูดถึง มูรินโญ่โดยคุณดู สเปอร์ส เล่นครึ่งแรกกับครึ่งหลังสิ ครึ่งแรก สเปอร์ส เล่นดีนะและจบสกอร์กันคมมาก นัดนี้ยิงเข้ากรอบ 3 ครั้งเป็นประตูทั้ง 3 ครั้งเลย ลูก 1-0 ซน ฮึง-มิน มีโชคที่บอลไปแฉลบ เจมส์ จัสติน เข้าประตูไป แต่ประตูที่ 2-3 นี่ แฮร์รี่ เคน แสดงให้เห็นเลยว่าเขาคมแค่ไหน ทั้งเท้าซ้ายและขวากันเลยทีเดียว