เป๊ป ลินจ์เดอร์ส ผู้ช่วยของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ออกมายอมรับว่า ฟาบินโญ่ คือคีย์แมนสุดสำคัญในดแดนกลางของทีมอย่างแท้จริง และทีมจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หากไม่ได้ลงสนาม

แข้งชาวบราซิลจำต้องมารับบทเซนเตอร์จำเป็นในระยะหลัง เมื่อแนวรับตัวจริงอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ รวมถึง โจเอล มาติป โดนอาการเจ็บเล่นงานไปตาม ๆ กัน

ฟาบินโญ่ ไม่ได้กลับมาเล่นในตำแหน่งถนัดของตัวเองจนกระทั่งแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดสองที่พบกับ แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อวันที่ 10 มีนาคม

แล้วหลังจากคืนตำแหน่งดังกล่าวได้สองนัด ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็คว้าชัยได้ทั้งสองเกมและไม่เสียประตูเลย เทียบกับ 17 เกมก่อนหน้านั้นพวกเขาชนะแค่ 5 เกม, โดนยิงไป 20 ลูกและรักษาคลีนชีตได้แค่ 4 หน

“ไม่ใช่แค่แนวรับนะที่เราขาดหายไป เรายังขาดมิดฟิลด์ไปด้วยเหมือนกัน” ลินจ์เดอร์ส กล่าว

“และนั่นคือจุดที่เราเสียคนขับเคลื่อนเกมของเราไป, นั่นเป็นปัญหาใหญ่ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดข้อกังขาในหลาย ๆ ด้านของแท็คติก”

“เราพยายามหาทางแก้ไขอยู่เสมอ แต่การจะแก้ไขก็ต้องการความต่อเนื่องด้วยและนั่นคือปัญหาเพราะจะมีปัญหาใหม่, ปัญหาที่แตกต่างเกิดขึ้นอยู่เสมอและทำให้ความต่อเนื่องหายไป”

“ฟาบินโญ่ มีความสามารถช่วยให้นักเตะรอบตัวเขาเล่นได้ดีขึ้น เป็นเรื่องยากมากที่จะหานักเตะที่มีพรสวรรค์ในการช่วยให้นักเตะคนอื่นเฉิดฉาย”

เขายังจัดให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม อยู่ในข่ายเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่ามิดฟิลด์ชาวดัตช์จะย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้เมื่อหมดสัญญา พวกเขาจึงเตรียมต้องหาคนมาแทนที่

ลินจ์เดอร์ส ยังกล่าวถึง ฟาบินโญ่ เพิ่มเติมว่า “เขาให้เรื่องของทีมมาก่อนเรื่องส่วนตนเสมอ แล้วคุณก็ยังได้นักเตะที่สนใจเพียงแค่ทำให้ทีมดีขึ้นเพียงเท่านั้น, ไม่มีคำว่าอีโก้ในตัวเลย”

“เขาเป็นนักเตะเพื่อทีมอย่างแท้จริง โชคดีที่เรามีอยู่ถึงสามคน, จินี่ และ เฮนโด้ ก็มีคุณลักษณะแบบนั้นเหมือนกัน”

“การมีมิดฟิลด์แบบนั้นอยู่ 2 คนก็เหมือนควีนในหมากรุกนั่นล่ะ พอควีนของคุณหายไป, ใครจะมาคอยป้องกันในเวลาที่คุณบุก”

“คุณต้องการนักเตะ 2 คนที่คุมเกมได้ในเวลาที่ไม่ได้ครองบอล นั่นคือสิ่งที่เราตามหา”