อาร์เตต้า กำลังทำผลงานได้ดี


Wednesday 22nd July 2020
อาร์เตต้า เปลี่ยนผู้เล่น 5 คนจากนัดชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในพรีเมียร์ลีก แต่ยึดระบบ 3-4-3 เช่นเดิม
การเปลี่ยน 5 คนไม่ได้ทำให้ศักยภาพดร็อปลงเพราะ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ดานี่ เซบายอส, เอคตอร์ เบเยริน และ ชโคดราน มุสตาฟี่ เป็นตัวหลักที่เล่นมาตลอดช่วงหลัง ทำให้ชุดตัวจริงที่เวมบลีย์ “แกร่งกว่า” วันโค่นหงส์แดงด้วยซ้ำ
มีเพียง เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ ที่ทำเซอร์ไพรส์ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย พร้อมขยับ คีแรน เทียร์นี่ย์ เข้าไปยืนเป็นเซนเตอร์ร่วมกับ ดาวิด ลุยซ์ และ ชโคดราน มุสตาฟี่
มิเกล อาร์เตต้า ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่า แมนฯ ซิตี้ ก็เหมือนทุกทีมที่มีจุดอ่อน และเขาต้องหาให้เจอเพื่อโจมตี ขณะเดียวกันก็ต้องหาทางรับมือจุดแข็งของซิตี้ซึ่งมีอยู่เพียบให้ได้
อาร์เตต้า ตัดสินใจถูกต้องกับการให้ลูกทีมเล่นตามศักยภาพตัวเองที่เป็นรองและต้องเน้นรับมากเป็นพิเศษ ส่วนจังหวะเกมรุกอาศัยการโต้กลับเป็นหลัก และเล่นให้น้อยจังหวะที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ในช่วงที่ต้องตั้งรับ ผู้เล่นเกมรุก 3 คนทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ และ นิโกล่าส์ เปเป้ ต่างลงมาช่วยทั้งหมด ขณะที่ กรานิต ชาก้า กับ ดานี่ เซบายอส ก็คอยปัดกวาดและกีดขวางโอกาสจ่ายบอลของซิตี้
ทุกคนเล่นกันอย่างมีวินัยและอดทน ไม่เสียสมาธิแม้ต้องตั้งรับเป็นส่วนใหญ่ เมื่อโฟกัสไม่หลุด การเล่นก็เป็นไปตามแผนและยืนหยัดได้ตลอด 90 นาที แถมจังหวะที่มีโอกาสก็ทำได้กับ 2 ประตูของ โอบาเมย็อง
ท้ายที่สุดแล้ว มิเกล อาร์เตต้า สามารถทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้สำเร็จกับการเอาชนะ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ได้ในช่วงเวลาเพียง 4 วัน
อาร์เซน่อล แพ้ แมนฯ ซิตี้ ตลอด 7 นัดหลังสุดที่เจอกัน เสียประตูรวม 20 ประตู และยิงคืนได้เพียง 2 ประตู เรียกได้ว่าสถิติเป็นรองชัดเจน และคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับหลายคนหาก แมนฯ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายเข้าชิงชนะเลิศได้
ทว่านัดนี้ อาร์เซน่อล เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นแข็งแกร่ง ยืนตำแหน่งกันดีมาก และเคลียร์จังหวะอันตรายในเขตโทษนับครั้งไม่ถ้วน
หากไม่นับช่วง 15 นาทีแรกที่ แมนฯ ซิตี้ ได้ขึงฝ่ายเดียวด้วยการครองบอลมากถึง 93 เปอร์เซ็นต์ ช่วงเวลาอื่น อาร์เซน่อล ตั้งรับพลังบุกของเรือใบสีฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยมและบีบให้ทีมที่มีเกมรุกดุดันของ เป๊ป ได้ยิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียวตลอด 90 นาที
เรือใบสีฟ้า เปิดบอลเข้าเขตโทษได้หลายครั้ง แต่แผงหลังปืนใหญ่ก็สามารถเคลียร์ได้ทุกจังหวะ ดาวิด ลุยซ์ ที่เคยมีฝันร้ายในเกมพรีเมียร์ลีกนัดรีสตาร์ทที่แพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ 0-3 สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมาได้ด้วยฟอร์มการเล่นอันสุดยอด
Posted by admin