เซร์คิโอ รามอส กลายเป็นนักเตะระดับประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด ทั้งด้านมืดและด้านสว่างตลอดการค้าแข้งกับทัพ’โลส บลังโกส’ 15 ปีที่ผ่านมา แม้จะวัยล่วงเลยมาแตะหลัก 34 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังเล่นด้วยความคงเส้นคงวาและเป็นอีกหนึ่งขุมกำลังที่ขาดไม่ได้สำหรับทีมชุดขาว

รามอส เติบโตมาจากทีมเยาวชนของ เซบีย่า รุ่นเดียวกับ เฆซุส นาบาส และ อันโตนิโอ ป้วยร์ต้า เขาลงประเดิมเวทีลีกาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2004 หลังลงเล่นฐานะสำรองแทน ฟรานซิสโก้ กายาร์โด้ ช่วงนาที 64 ในเกมพ่าย เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 0-1 บนสังเวียน’รีอาซอร์’

ตลอดการเล่นอาชีพ 17 ปี ช่วง 2 ซีซั่นแรกกับ เซบีย่า และอีก 5 ฤดูกาลถัดมากับ เรอัล มาดริด เขาลงสนามรวมกัน 694 เกม ทำ 97 ประตู ซึ่งเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังที่ทำประตูต่อเนื่องทุกซีซั่นมาตั้งแต่ฤดูกาล 2004-2005 ปีแรกที่ก้าวขึ้นมาเล่นทีมเซบียาโน่เต็มตัว เขาไม่เคยบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาว โดยทำสถิติลงสนามน้อยสุดในซีซั่น 2015-2016 เนื่องจากบาดเจ็บไหล่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทว่ายังลงสนามรวมกัน 33 เกมในฤดูกาลดังกล่าว

รามอส เพิ่งก้าวขึ้นแท่นเป็นกองหลังที่ทำประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลลีกา หลังการสังหารจุดโทษในเกมบุกชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 ก่อนแนวรับวัย 34 ปีจะบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูจากการยิงฟรีคิกสุดสวยในเกมสยบ มายอร์ก้า 2-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

เซร์คิโอ รามอส คว้าชัยชนะเกมที่ 300 บนเวทีลีกาของเขาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเปิดเผยหลังเกมดังกล่าวว่า ‘ฟุตบอลเป็นเกมที่เล่นด้วยกันเป็นทีมและผมแฮปปี้ตอนที่เราคว้าแชมป์ ในระดับส่วนตัว, สถิติและความสำเร็จส่วนบุคคลเป็นแรงบันดาลใจของคุณและทำให้คุณภูมิใจเช่นกัน มันเป็นรางวัลสำหรับการทำงานหนักและความมั่นคงมานานหลายปี’

‘เรายังต้องปรับปรุงเพราะมันรู้สึกว่าเราค่อนข้างเฉื่อยชาในบางเวลาในเกม แต่นั่นช่วยให้เราฟื้นตัวและคิดถึงการแข่งขันนัดต่อไป ทีมรู้สึกเหนื่อยล้าจากการลงเล่นทุกๆ 3 วันด้วยเวลาฟื้นร่างที่เราได้รับ เรากำลังทำงานเพื่อให้ดีขึ้นเรื่อยๆและเป้าหมายคือการเดินหน้าเก็บ 3 คะแนนเพื่อคืนสู่จุดสูงสุดของตาราง’

‘เรารู้ว่าเกมที่เหลือเป็นเหมือนนัดชิงชนะเลิศและเราจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีเพื่อคว้าแชมป์ลีกา เราชื่นชอบที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ มันเป็นรางวัลจากความมานะพยายามในช่วงกักตัวระหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า เรามีการฝึกซ้อมที่ยากลำบากช่วง 2-3 สัปดาห์และเราเห็นประโยชน์ในตอนนี้’

รามอส ยังสะสมใบเหลืองบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกมากสุด 40 ใบ และถูกไล่ออกจากสนาม 4 ครั้ง (ใบแดงโดยตรง 3 ครั้ง) เป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแชมเปี้ยนส์ลีก

เขายังเป็นเจ้าของสถิติสะสมใบเหลืองในการเล่นกับทีมชาติสเปนมากสุดจากจำนวน 24 ใบด้วย

นั่นคือผลงานของ เซร์คิโอ รามอส ที่ทำให้โลกลูกหนังจดจำและกลายเป็นนักเตะระดับประวัติศาสตร์ของสโมสร เรอัล มาดริด

แน่นอนว่าเขายังคงเป็นขุมกำลังหลักของ เรอัล มาดริด ยุค ซีเนดีน ซีดาน ทั้งปัจจุบันและในอนาคตอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า แต่สัญญาของกองหลังวัย 34 ปีกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2021