โฟเด้น ก็ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากพอ ตั้งแต่ที่ถูกกระโดดถีบสองเท้าคู่จากทีมเยาวชนขึ้นทีมชุดใหญ่ในปี 2017

เขาได้ออกสตาร์ทตั้ง 2 จาก 4 เกม ตั้งแต่โปรเจ็คท์รีสตาร์ททำงาน แถมยังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการยิงไป 4 ประตู และทำได้อีกแอสซิสต์

มีเพียงเกมเดียวที่ โฟเด้น ไม่ได้ลงเล่นก็คือนัดที่ เรือใบ แพ้ให้กับ เชลซี และนั่นก็เป็นหนึ่งเกมที่เขาไม่ชนะด้วย

เป๊ป กำลังทำทีมให้ลุกโชนเป็นไฟกับการพัฒนาเด็กที่หลายคนเริ่มหมดหวังกับเขา

ความรักที่ยากลำบากของ โฟเด้น อาจเป็นแรงผลักดันให้ แมนฯ ซิตี้ มีอนาคตที่สดใส โดยไม่ต้องโปรยเงินเหมือนที่ผ่านมา

กวาร์ดิโอล่า เลือกดร็อปเขาจากทีม ทั้งที่เพิ่งจะได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศกับ แอสตัน วิลล่า

แต่ด้วยความที่เป็นแฟน ซิตี้ มาตลอดทั้งชีวิต โฟเด้น เลือกที่จะใช้ความอดทน และมิดฟิลด์ที่เกิดจากสต็อคพอร์ตก็เลือกที่จะไม่หนีทีมไปไหน

หลังจาก ซิตี้ ถล่มแชมป์ทีมปัจจุบันกระจุยกระจาย 4-0 เป๊ป ก็ได้เผยถึงทิศทางของ โฟเด้น อีกครั้ง “ผมเห็นนักเตะมาแล้วหลายคนในชีวิตของผม ผมฝึกซ้อมกับเหล่าผู้เล่นที่น่าเหลือเชื่อ และ ฟิล ก็เป็นหนึ่งในนั้น”

แต่หลังจากต้องถูกจำกัดการแสดงศักยภาพที่แท้จริงของ โฟเด้น มานาน นี่อาจเป็นเวลาของมิดฟิลด์เลือดผู้ดีแล้วก็ได้

เขาได้รับการคาดหมายว่าจะเข้ามาแทนที่ ดาบิด ซิลบา ซึ่งกำลังจะจากไป แต่ด้วยความเก่งกาจของ โฟเด้น เราอาจมีโอกาสมองเห็นเขาไปไกลได้กว่าเดิมในตำแหน่งตัวริมเส้น หรือเล่นตัวสูงกว่านั้นตามที่ กวาร์ดิโอล่า บอกไว้

เรือใบ จะต้องมองหาตัวเลือกมาเพิ่มความแข็งแกร่งในแนวรับหากพวกเขาหากอยากแข่งขันกับ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง