ทำความรู้จักกับการสมาธิ
สวัสดีครับ ผมชาญวิทย์ วันนี้ผมเองกับเจ้าหมาน้อยคนน้อยหนึ่งที่ชื่อเชอร์รี่และแมวสีส้มวิทย์ที่อยู่ในกรุงเทพฯ จะมาแนะนำเทคนิคการสมาธิที่ไม่ยากแค่คุณคิด. การสมาธิไม่ได้ยากขนาดที่คุณคิดนะครับ ผมที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองที่มีความวุ่นวายที่สุดในประเทศไทย ยังสามารถทำสมาธิได้, และผมได้รับประโยชน์จากการสมาธิที่ค่อนข้างมาก ซึ่งผมจะเริ่มบรรยายเกี่ยวกับเทคนิคเหล่านี้เลยละกัน
เลือกที่ทำสมาธิที่เหมาะสม
การทำสมาธิไม่จำเป็นต้องทำในสถานที่ที่เงียบสงบหรือโรงสมาธิเท่านั้น ผมก็ทำสมาธิที่บ้านเหมือนกัน ที่รักษาความสงบ ไม่มีความวุ่นวายจากเสียงหรือเทคโนโลยี ผมได้ลองทำสมาธิส่วนในตัวอาคาร และ, ระบบการทำงานของผมก็ยังคงทำงานอยู่ อย่างไรก็ตาม คุณวลีที่สำคัญคือ "เลือกสถานที่ที่คุณรู้สึกสบายใจ"
เริ่มจากการหายใจให้ถูกต้อง
การหายใจถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของชีวิต เพราะมันทำให้ทุกโมเมนต์ยิ่งใหญ่ขึ้นขณะที่มันยังรักษาการทำงานแบบปกติของร่างกาย. การหายใจที่ถูกต้องในช่วงเวลาการสมาธิมีความสำคัญมาก. ในการสมาธิ หายใจให้ลึกๆ และ ชายใจด้วยการหายใจออกเต็มที่ อย่างเช่น หายใจเข้า 4 วินาที, ถือลม 7 วินาที, หายใจออก 8 วินาที เป็นต้น
ปล่อยให้ความคิดผ่อนคลาย
คำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับตัวคำถาม "หากความคิดของฉันเริ่มที่ไหน?" คือ "ทุกที่" ความคิดมันเกิดขึ้นทั่วทั้งจักรวาลและการสามารถให้ความคิดของเราผ่อนคลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสมาธิ.
สร้างการสมาธิภายในการทำงาน
การทำงานส่วนใหญ่ที่ใช้คณิตศาสตร์และการคิด ทำให้สมาธินั้นยากขึ้น เนื่องจากความเข้มข้นของการทำงาน ทำให้การสร้างสมาธิขณะทำงานเป็นทางเลือกที่ดี. ลองค้นหาช่วงเวลาที่ไม่วุ่นวาย หากงานของคุณทำได้โดยไม่เครียดหรือพรากจากความจริง เช่น การสร้างภาพ, ลวดลาย, ความสวยงาม, หรือความสบายใจ คุณสามารถสร้างสมาธิได้จากการทำงานด้วย
ใช้เครื่องมือที่ช่วยในการสมาธิ
ยุคใหม่ให้เราบันดาลใจกับอุปกรณ์ดิจิตอลที่พิสูจน์ว่าเราสามารถทำสมาธิได้ในทุกสถานที่ ไม่ว่าซอฟต์แวร์สมาธิจะเป็นแอปพลิเคชั่น, วิดีโอ, หรือเว็บไซต์, มันสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการเรียนรู้การสมาธิและการปรับตัวสู่วิถีใหม่
สร้างวัฏจักรสมาธิอย่างมีเหตุผล
การสร้างความสม่ำเสมอในการสมาธิสำคัญมาก เพราะมันทำให้การสมาธิของคุณมีความค่อนข้างฉบับบันเทือง วิธีที่ผมใช้ก็คือการกำหนดเวลาทำสมาธิในวันในช่วงเวลาเดียวกันทุกวัน ยิ่งคุณทำสมาธินิสติบ่อยขึ้น คุณก็จะสามารถสร้างความสม่ำเสมอและชุดปฎิกิริยาอัตโนมัติจากการสมาธิได้
รับรู้ถึงความรู้สึกตัวเอง
สุดท้ายแล้ว จงรับรู้กระแสปัจจุบันของความรู้สึกของคุณ ในการสมาธิ, ความรู้สึกโกรธ, เศร้า, หรือสนุกสนาน สามารถทำให้ความสมาธิของคุณลดลง และอาจทำให้คุณรู้สึกว่าการสมาธินั้นยาก แต่ว่าอย่าท้อเลยครับ! จงเอาใจใส่ในความรู้สึกของคุณ เพราะว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของคุณ กระทั่งที่คุณสามารถรับรู้ความรู้สึกของคุณได้ดี เวลาที่มีความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา คุณก็ยังสามารถกลับมาสู่การสมาธิอย่างเราวานได้