แนะนำการรักษาด้วยศิลปะสร้างสรรค์
แนวคิดในการใช้ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดูแลสุขภาพจิตเริ่มจากการรับรู้ถึงประโยชน์ของการสร้างสรรค์ในชีวิตแต่ละวัน ฉันวิชัย มีความรู้สึกว่าบรรดาศิลปะเหล่านี้ทั้งหมดมีอะไรที่เป็นกลางที่เชื่อมต่อกัน เหมือนเส้นใยที่สามารถเชื่อมโยงจิตวิญญาณรวมถึงท่าทางการเป็นมนุษย์ที่แท้จริงของเรา กับสังคมและจักรวาลที่ใหญ่กว่า
การมองหนังสือที่เขียนในมือของศิลปินกับการภาพทรงจำภาพถ่ายที่มีอารมณ์ขัน หรือรสชาติที่แท้จริงของอาหาร และลึกลับของบทเพลง ทั้งหมดเหล่านี้แห่งชีวิตนั้นมีความสามารถที่จะติดต่อกับเราในระดับที่ลึกกว่าระบบประสาทและไขสันหลังของเรา และเหล่านี้แห่งศิลปะสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารสภาวะอารมณ์และความคิดของคนส่วนใหญ่
การใช้ศิลปะในการบำบัด
แม้การใช้ศิลปะเป็นวิธีการในการแสดงอารมณ์และการรักษามานานกว่าที่เราคิด ซึ่งในส่วนนั้นแสดงว่าโลกใบนี้จดจำถึงความสำคัญของศิลปะได้ถึงจุดนี้อย่างมาก เมื่อมีการสร้างและสื่อสารผ่านภาพวาดสีน้ำ ซึ่งเป็นทั้งวัสดุที่ดิบและมาตรฐานของประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ การส่งผ่านงานศิลปะเหล่านี้ก็เหมือนกับการเขียนสมุดบันทึกของทุกคนที่อยู่ในคณะต้นแบบนั้น
ประสบการณ์นี้ล้วนแต่เป็นวิธีที่ดีของการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเราเอง วิ่งร่วมกับสายวิวัฒนาการเรา ไปตามเส้นทางสู่สิ่งที่เราเผชิญทุกวัน เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเราสื่อสารกับคนอื่น รวมถึงการรับรู้ทุกอย่างที่เรารู้สึกในแต่ละวันนั้น ฉันนี่แหละก็มีความสุขขณะนี้เพราะได้ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงในการทำงานศิลปะสร้างสรรค์ทุกวันกับลูกๆฉันทั้งสองชาติกรและอุชชางค์
ความหมายของการอยู่ในขณะนี้ที่มีการสร้างสรรค์
ขณะที่ฉันและลูกชายสองคนการสร้างสรรค์บนกระดาษสีขาว ความจริงแล้วแล้วนั้นสิ่งที่เราทำไม่ได้จำเป็นต้องมีประโยชน์สำหรับสิ่งที่เราทำ หรือความรู้สึกทางบวก แต่การสร้างสรรค์ด้วยศิลปะเป็นเพียงแค่รักษาความสุขและสร้างสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายและรูปแบบที่ร่วมกัน
ความรู้สึกที่มีกับการทำงานศิลปะเป็นเรื่องคลายเครียดอยู่ในขณะนาทีที่เราสร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ ถ้าคุณทำด้วยความสุขและหัวใจของคุณ คุณจะรู้สึกถึงความสุข ทำให้สมองของคุณปลดปล่อยฤทธาณัฐที่ทำงานทุกวันและสัมผัสได้ถึงไขปริศนาของความสุขที่แท้จริง
ศิลปาธิษฐานในการรักษา
ศิลปะสร้างสรรค์ที่มีกระบวนการสวมลึกเข้าไปในอารมณ์ขันเช่นของเพลง โครงสร้างห้อง หรือรูปร่างที่น่าทึ่งของพืชและสัตว์ที่เราสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันทั้งหมด อาจพาเรามาที่การทำความเข้าใจถึงจิตวิญญาณและการแยกส่วนตัวของเราจากสังคมของเรา
และยิ่งสำรวจและสิ่งที่เราสัมผัสจากใจก็ยิ่งเป็นการเปิดใจให้เกิดการรับรู้และการรักษาแบบลึกซึ้งขึ้น ฉันก็ต้องยอมรับว่า ระหว่างที่ทำงานวาดรูปในป่ายามค่ำคืนด้วยแสงที่เบา ไฟแท่นข้าวของฉันและลูกชายสองคนแห่งความขัดแย้งและความโกรธงอนถูกบรรเทาด้วยความว่างเปล่าที่มาพร้อมกับการศิลปาธิษฐาน
ทำอย่างไรให้กลกลายเป็นศิลปินรักษา?
การเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะสร้างสรรค์ในการรักษาคือการรู้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตคุณเอง ในศูนย์กลางของครั้งแรกที่คุณคิดอย่างลึกซึ้งและเปิดข้อความที่คุณเขียน ความคิดภาพที่คุณเห็น สุนทรียภาพที่คุณยังรู้สึกได้จากภาพรวมเหล่านี้คือความรักใช่มั้ย?
ศิลปะสร้างสรรค์รักษาความคิดของคุณที่มี ตามความรู้สึกของคุณ ทำให้คุณอยู่ในความทรงจำและความคิดของคุณในตอนนี้ และทำให้คุณสามารถใช้เวลาความรักและการดูแลรักษามันมากขึ้น กระบวนการแห่งนี้มักจะสร้างความเชื่อมโยงที่ฉันเคยประสบประสบการณ์ในการวาดภาพกับลูกชายของฉัน อุชชางค์ ที่สามารถให้ฉันรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับโลกและความมนุษย์ของเขาเมื่อเห็นบันทึกภาพวาดของเขา
รับรู้ความสำคัญของการเป็นมนุษย์เรา
การสร้างสรรค์และภาพสร้างภาพในสายตาของเรา เป็นประวัติศาสตร์ของความเป็นมนุษย์ สามารถไปได้หมื่นฟุตใต้ผิวน้ำทะเลหรือไปถึงจุดสุดท้ายของบรรยากาศ รวมถึงตามรอยเท้ายุคกลาง แต่ทั้งหมดนี้ได้มาจากแรงบันดาลใจความคิดภาพที่เราต้องการสร้างสรรค์ในลวานน์ต่างๆ ความทรงจำนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวฉันวิชัย ในวันที่เรายืนอยู่บนหน้าผาด้วยพาเลทสีรุ้ง ภาพที่ขึ้นสู่ใต้ป่ายามค่ำคืนนั้น เมื่อผ่านไปสามวันแล้วคืน เหยียบบนสีที่เหลืออยู่และสร้างสรรค์จากความว่างเปล่า
ในขณะที่โลกวิ่งเร็ว แต่ความคิดสร้างสรรค์ของเรามันยังอยู่ที่นี่ในขณะนี้ มันเสมือนจะทำให้เราตื่นตัวในขณะนี้และอาจเรียกความสุขด้วยได้ ฉันขอนำเสนอแนวทางที่เราสามารถเคารพให้แก่ความจริงในความเป็นมนุษย์ความสุขอยู่ที่นี่รอบ ๆ เรา และในความสร้างสรรค์ของความคิดเรา เนื่องจากเราทุกคนคือศิลปินและศิลปะของเราคือสิ่งที่เราทำ